ว่าว เป็นสิ่งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อความบันเทิงที่นิยมเล่นกันเกือบทุกชาติเป็นเวลานานมาแล้ว
แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้คิด
บางทีว่าวยังใช้ประโยชน์อย่างอื่นๆ ได้อีก
การเล่นว่าวยังนิยมเล่นกันจนถึงปัจจุบันนี้ การละเล่นของไทยเพื่อความบันเทิงอย่างหนึ่งของเด็กและผู้ใหญ่
ที่นิยมกันมากในทุกภาคของประเทศไทยก็คือการเล่นว่าว
ซึ่งปรากฏตามหลักฐานว่ามีมาเเต่ กรุงสุโขทัย
เป็นว่าวที่ส่งเสียงดังด้วยในเวลาที่ลอยอยู่ในอากาศ เรียกว่า ว่าวหง่าว
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาก็ปรากฏตามหลักฐานของชาวต่างประเทศว่า “ว่าวของสมเด็จ
พระเจ้ากรุงสยามปรากฏในท้องฟ้าทุกคืนตลอดเวลาระยะ 2 เดือน “ในฤดูหนาว” และยังกล่าวว่า “ว่าวเป็นกีฬาที่เล่นกันอยู่ทั่วไปในหมู่ชาวสยาม”
ที่ลพบุรีเวลากลางคืน รอบพระราชนิเวศน์จะมีว่าวรูปต่างๆ ลอยอยู่
ข่าวนี้ติดโคมส่องสว่างและลูกกระพรวนส่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง ในสมัยพระเพทราชา
เคยใช้ว่าวในการสงคราม
โดยผูกหม้อดินบรรจุดินดำเข้ากับสายป่านว่าวจุฬาข้ามกำแพงเมือง
แล้วจุดชนวนให้ระเบิดไหม้เมืองนครราชสีมาได้สำเร็จ
ว่าวจุฬา มีลักษณะเป็น ๕ แฉก ประกอบเป็นโครงขึ้นด้วยไม้ ๕ อัน นักเลงว่าวจะเสาะหาไม้ไผ่สีสุกที่มีปล้องยาวเรียว เรียกว่า "เพชรไม้" มาเหลา อันกลางเรียกว่า "อก" เหลาปลายเรียวหัวท้าย ๑ อัน อีก ๒ อันผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีกและอีก ๒ อัน เป็นขาว่าวเรียกว่า "ขากบ" จากนั้นขึงด้ายเป็นตารางตลอดตัวว่าว เรียกว่า "ผูกสัก" แล้วใช้กระดาษสาปิดทับลงบนโครง สำเร็จเป็นว่าวจุฬา ถ้าหากไม่ถูกสัดส่วนแล้ว ว่าวจะไม่อาจลอยตัวขึ้นได้เลย
ว่าวปักเป้า มีลักษณะเช่นเดียวกับว่าวอีลุ้ม แต่ทว่าไม้โครงส่วนที่เป็นปีกจะแข็งกว่าปีกของอีลุ้มมาก จึงต้องมีหางซึ่งทำด้วยผ้าเป็นเส้นยาวถ่วงอยู่ที่ส่วนก้น เมื่อชักขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศแล้วจะไม่ลอยอยู่เฉยๆ จะส่ายตัวไปมาน่าดูมากและเมื่อถูกคนชักกระตุกสายเชือกป่านตามวิธีการแล้ว มันจะเคลื่อนไหวโฉบเฉี่ยวไปในท่าทางต่างๆ ตามต้องการ
ว่าวตุ๋ยตุ่ย มีรูปร่างแบบเดียวกับว่าวจุฬา แต่ขากบเป็นรูปเดียวกับปีกติดอยู่ซ้อนกัน ส่วนบนใหญ่และส่วนล่างเล็ก สุดตัวตอนล่างมีไม้ขวางอีกอันหนึ่ง สำหรับผูกหาง ซึ่งมีสองหางช่วยในการทรงตัวเมื่อขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ ส่วนบนของหัว ไม้อันที่เป็นอกยื่นออกมาในราวหนึ่งคืบ เป็นเดือยในลักษณะสี่เหลี่ยม เพื่อเสียบที่ทำเสียง ซึ่งเป็นคันเหมือนคันกระสุนหรือธนู ทำด้วยไม้ไผ่ เจาะรูให้เป็นสี่เหลี่ยมกึ่งกลางคันให้พอดีกับเดือยสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมา ตัวการที่ทำให้เกิดเสียงนั้น ใช้ไม้ไผ่หรือหวายเส้นโตๆ เหลาให้เป็น
แผ่นบางๆ แล้วเอาปลายเชือกสองข้างผูกติดกับปลายคัน เมื่อติดเครื่องทำเสียงนี้แล้ว ก็จัดการให้ว่าวขึ้นไปลอยอยู่บนอากาศ ไม้ไผ่หรือหวายแผ่นบางๆ ที่ถูกขึงตึงอยู่นั้น เมื่อสายลมมาปะทะ ก็จะพลิ้วตัว ทำให้เกิดเสียงดังตุ๋ยตุ่ยอยู่ตลอดเวล ว่าวนี้ทำเล่นกันตามชนบท โดยมากพระเป็นผู้ทำนิยมชักขึ้นในเวลากลางคืน
ว่าวอีลุ้ม มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีไม้ไผ่เป็นโครงสองอันคือ อกและปีก อกจะสั้นกว่าปีกเล็กน้อยกระดาษที่ใช้ปิดทาบลงบนโครงนี้ คือ กระดาษว่าว ซึ่งบางเป็นพิเศษ ส่วนปลายของปีกทั้งสองข้างจะติดพู่กระดาษเพื่อช่วยในการทรงตัวในขณะที่ว่าวลอยอยู่ในอากาศ
ว่าววงเดือน หรือเรียกว่า ว่าวควาย ว่าวเดือน หรือวาบูแล เป็นว่าวที่มีรูปดวงเดือนเป็นส่วนประกอบอยู่ตรงกลางลำตัว ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ปีก เขา (คล้ายเขาควาย) และดวงเดือนซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างปีกและเขาและตอนกลางของลำตัว ว่าววงเดือนโดยทั่วไปนิยมตัดกระดาษสีมาทำเป็นลวดลายต่างๆ ปิดทั้งตัวว่าวเพื่อให้ดูสวยงามและแข็งแรงมั่นคง
โอกาสที่จะเล่นว่าว
จากหลักฐานข้างต้นจะเห็นได้ว่าว่าวเป็นการละเล่นเพื่อความบันเทิงของคนไทยทุกชั้น
นับตั้งแต่องค์พระมหากษัตริย์ถึงคนสามัญ แล้วยังใช้ประโยชน์อื่นได้อีก
และเล่นกันในหน้าหนาวตอนกลางคืน ปัจจุบันนิยมเล่นกันทั้งในหน้าหนาวและหน้าร้อน
การเล่นว่าวแน่นอนจะเล่นว่าวได้สนุก กระแสลมนี้มี 2 ระยะ คือ
ฤดูหนาวหรือหน้าหนาว ลมจะพัดจากผืนแผ่นดินลงสู่ทะเล คือ พัดจาก
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดังปรากฏในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยาว่าเล่นว่าวใน หน้าหนาว
ปัจจุบันนี้ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ยังนิยมเล่นว่าวใน หน้าหนาว
ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์
ฤดูร้อนหรือหน้าร้อน จะมีลมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลพัดสู่ผืนแผ่นดินใหญ่
หรือเรียกกันว่าลมตะเภา ชาวไทยภาคกลาง ภาคตะวันตกและภาคใต้
นิยมเล่นว่าวในระยะนี้คือ ประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน
และมักจะเรียกกระแสลมที่พัดมาทาง ทิศนี้ว่า ”ลมว่าว”
วิธีเล่นว่าวของไทย คนไทยในภาคต่างๆ
ทุกภาคนิยมเล่นว่าวมาก วิธีเล่นมีอยู่ 3 วิธี คือ
1.ชักว่าวให้ลอยลมปักอยู่กับที่
เพื่อดูความสวยงามของว่าวรูปต่างๆ
2.บังคับสายชักให้เคลื่อนไหวได้ตามต้องการนิยมกันที่ความงาม
ความสูง และบางทีก็คำนึงถึงความไพเราะของเสียงว่าวอีกด้วย
ในการเล่นว่าวทั้งสองวิธีนี้
ไทยเราได้ประดิษฐ์เป็นรูปต่างๆ ตามความนิยมในท้องถิ่นมานานแล้ว
แต่ในปัจจุบันนี้มีรูปแบบใหม่มาจากต่างประเทศปะปนด้วย ว่าวแบบดั้งเดิมของภาคต่างๆ
บางอย่างยังปรากฏอยู่ บางอย่างก็หาดูไม่ได้แล้ว
ว่าวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทยและมีทุกภาคคือว่าวจุฬา
ส่วนว่าวปักเป้านั้นแม้จะเล่นกันใน ภาคกลาง แต่ก็เป็นที่รู้จักกันมาก
3.การต่อสู้ทำสงครามกันบนอากาศ
การเล่นว่าวแบบนี้แตกต่างจากชาติอื่น ทั้งตัวว่าวและวิธีที่จะต่อสู้คว้ากัน
การแข่งขันว่าวจุฬากับปักเป้านั้น
ว่าวปักเป้ามีขนาดเล็กกว่าว่าวจุฬาประมาณครึ่งหนึ่ง
การแข่งขันแบบนี้มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ก็ยังมีการแข่งขันว่าวจุฬาและปักเป้าในภาคกลางของประเทศไทยมาจนปัจจุบันนี้
การแข่งขันว่าว
การแข่งขันว่าวเป็นกีฬาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างหนึ่ง
เป็นศิลปะที่ต้องใช้ความสามารถของผู้เล่นเป็นอย่างมาก ทั้งผู้ทำว่าวและผู้ชักว่าว
ต้องใช้ความประณีต ควมแข็งแรง ความมีไหวพริบ และข้อสำคัญต้องอาศัยความ
พร้อมเพรียงด้วย พระมหากษัตริย์ไทยก็ทรงสนับสนุนว่าวไทยตลอดมา
ในปัจจุบันนี้มีการแข่งขันว่าวกัน 2 ประเภท ประเภทแรก คือ การแข่งขันว่าวจุฬาและปักเป้า
คว้ากันบนอากาศ อีกประเภทหนึ่งเป็นประเภทการละเล่น การแข่งขัน เป็นการประกวดฝีมือในการประดิษฐ์
ซึ่งจะแยกเป็นด้านความสวยงาม ความคิด ความตลกขบขัน
และความสามารถในการชักให้ว่าวแสดงความสามารถ สมรูปทรง และให้สูงเด่นมองเห็นได้ชัด
Lucky Club Casino site | Lucky Club Casino in London, UK
ตอบลบLucky Club Casino is an online luckyclub.live gambling establishment established in 2021. They provide a wide range of online slots, jackpots, live casino,
Casino no deposit bonus codes 2021 - Poormans
ตอบลบHow to get a casino no deposit bonus? · First, simply click 바카라 전략 the 토토커뮤니티 Casino's 더킹 바카라 link and click the bonus code 사다리 게임 사이트 below. · Fill in the 외국 라이브 link as your first